ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดหรือเรื่องใดก็ตามนั้น ย่อมข้อกำหนดกฏเกณฑ์ที่เราจะต้องศึกษากัน ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของ “การทำประกันสุขภาพ” ที่จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงทางด้านต่างๆ นอกเหนือจากเรื่องของสุขภาพอีกด้วยหล่ะครับ วันนี้เราจะขอแนะนำท่านผู้อ่านให้เข้าใจเกี่ยวกับ “5 โรคที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง” กันสักหน่อยครับ จะมีโรคใดบ้างนั้นนั้น… เราไปดูกันดีกว่าครับ
ประกันสุขภาพที่ดีเป็นอย่างไร?
ตาม คปภ. ได้อธิบาย “การประกันสุขภาพ” คือ การประกันภัยที่บริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้แก่ผู้เอาประกันภัย การประกันสุขภาพมีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีขอบเขตความคุ้มครองแค่ไหน การประกันสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพหมู่และการ ซึ่งประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพรายบุคคล ทั้ง 2 ประเภท ให้ความคุ้มครองที่เหมือนกัน โดยแบ่งความคุ้มครองหลักออกได้เป็น 7 หมวด ได้แก่
- ให้ความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการป่วยไข้ โดยจะชดเชยค่าใช้จ่ายอันเกิดจาก
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการผ่าตัด ค่าปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการผ่าตัด
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการให้แพทย์มาดูแล
- ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาที่คลีนิค หรือแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล
- ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาฟัน
- การชดเชยค่าใช้จ่าย
5 โรคที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง
- โรคจากพันธุกรรม โรคจากพันธุกรรม โรคประจำตัว ถือเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ รวมทั้งโรคที่เป็นก่อนทำประกัน เพราะฉะนั้นหากตรวจพบหรือเป็นก่อนทำประกันภัยสุขภาพ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ โรคเอดส์ เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ประกันภัยสุขภาพไม่คุ้มครอง หากเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคดังกล่าว จะไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้
- โรคที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ โรคที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ หรือแท้งลูก หากเกิดอาการแทรกซ้อนประกันภัยสุขภาพจะไม่คุ้มครอง
- โรคทางจิตเวช โรคทางจิตเวช หรือโรคทางจิตใจ รวมถึงบุคลิกภาพผิดปกติ อาทิ โรคซึมเศร้า โรควิตกจริต และโรคจิตเภท ประกันภัยสุขภาพส่วนใหญ่จะไม่ให้ความคุ้มครอง
- โรคเรื้อรัง การเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บที่ยังมิได้รักษให้หายก่อนวันทำสัญญาประกันภัย การตรวจรักษา ภาวะที่เป็นมาแต่กำเนิด (Congenital) หรือปัญหาด้านพัฒนาการ หรือโรคทางพันธุกรรม
ประกันสุขภาพคุ้มครองเกียวกับเรื่องของกรผ่าตัดเสริมความงามด้วยหรือไม่?
ไม่สามารถเครมประกันได้ เนื่องจากการตรวจรักษาหรือการผ่าตัดเพื่อเสริมสวย หรือการแก้ไขปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า กระ รังแค ผมร่วง หรือการควบคุมน้ำหนักตัว หรือการผ่าตัดอันมีลักษณะเลือกได้ เว้นแต่เป็นการตกแต่งบาดแผลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่ได้รับความคุ้มครองครับ
หลักการเลือกประกันให้เหมาะและครอบคลุมมากที่สุด
- พิจารณารายได้ การทำประกันนั้นอาจถือเป็นหนึ่งในการออมทางเลือกที่หลายคนให้ความไว้วางใจ ที่นอกจากจะเป็นการเก็บเงินก้อนแล้ว ยังเป็นการรองรับความเสี่ยงที่ดีอีกด้วย แต่ทว่าหลายคนก็เลือกจะทำประกันที่มีวงเงินสูง ทำให้ต้องจ่ายเบื้ยประกันสูงตาม เราอาจมั่นใจกับการประกันภัยดังกล่าวในระยะสั้น ทว่าระยะยาวนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินได้ ประกันชีวิตที่เหมาะสมคือ 10-20% ของรายได้
- พิจารณาความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งแม้ว่าจะดูแลสุขภาพดีแค่ไหนแต่ความเสี่ยงในโรคภัยก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การทำประกันสุขภาพไว้ล่วงหน้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการแบ่งเบาความเสี่ยงที่อาจเกิดในอนาคต
- พิจารณาความเสี่ยงในการทำงาน รวมไปถึงการเดินทางก็นับเป็นความเสี่ยงประการหนึ่ง หากทำงานใกล้บ้าน งานออฟฟิศ อาจใช้เป็นการทำประกันสุขภาพ ที่มีความเกี่ยวข้องกับออฟฟิศซินโดรม แต่ถ้าออกต่างจังหวัดบ่อย งานมีความเสี่ยงสูง ประกันอุบัติเหตุและประกันชีวิตอาจมีความสำคัญมากขึ้น
- พิจารณาจากการแผนประกันชีวิต ข้อสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดนี้จะทำให้คุณเปรียบเทียบแผนประกันชีวิตของบริษัทต่างๆ ด้วยค่าเบี้ยประกันภัยที่ไม่หนีกันมากนัก แต่คุ้มครองได้ไม่เท่ากัน ดังนั้นควรเลือกประกันที่แผนยืดหยุ่นและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราให้มากที่สุดนั้นเองครับ
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “5 โรคที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง” ที่เราได้รวบรวมมาให้กับทุกๆ ท่านได้ลองอ่านเป็นความรู้ติดตัวครับ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อยกันนะครับ